หนูแฮมเตอร์เป็นโรคอะไรได้บ้าง

หนูแฮมเตอร์เป็นโรคอะไรได้บ้าง
 
"ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" แต่ทุกชีวิตล้วนต้องมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม...
     สัตว์ตัวเล็กๆ อย่างแฮมสเตอร์ ก็ต้องมีการเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งโรคที่จะพบในแฮมสเตอร์ก็มีไม่กี่โรค การรักษาก็ตามอาการตามโรคที่เป็ร แต่เราก็สามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคได้ แต่เมื่อแฮมสเตอร์เกิดป่วยขึ้นมาล่ะเราต้องทำอย่างไร?  ...ที่นี่มีคำตอบ


โรคหางเปียก
     โรคหางเปียกนับว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับแฮมสเตอร์ก็ว่าได้
     โรคหางเปียกเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือการขาดสมดุลของแบคทีเรียในกระเพาะอาหารของแฮมสเตอร์ หรือเกิดจากความเครียด เช่นการเปลี่ยนที่อยู่ใหม่
     ลักษณะอาการของโรค จะมีการถ่ายเหลวซึ่งจะคล้ายๆกับโรคท้องเสียธรรมดา แต่ท้องเสียธรรมดาอุจาระจะเลอะแค่บริเวณก้น แต่ถ้าเลอะตั้งแต่ก้นจนถึงโคนหาง อุจาระมีสีอ่อน นิ่มเหลว บางครั้งเป็นเมือก มีกลิ่นเหม็นมากกว่าปกติ มีอาการเซื่องซึม อ่อนเพลีย กรีดร้องอย่างเจ็บปวด ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นโรคหางเปียก
     ระยะเวลาของโรค หลังจากแสดงอาการประมาณ 7 วัน แฮมสเตอร์ก็จะเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง
     สิ่งที่ควรทำทันทีที่เห็นอาการ ให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด อย่าให้ยาปฏิชีวนะสำหรับอาการท้องเสียธรรมดา เพราะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น


โรคท้องเสีย
     แฮมสเตอร์อาจมีอาการท้องเสียได้บ่อยๆ ถ้าแน่ใจว่าไม่ได้เป็นโรคหางเปียก ก็ให้รักษาด้วยการให้ยาแก้ท้องเสียสำหรับสัตว์ โดยพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตว์แพทย์ ไม่ควรซื้อยามาป้อนเอง การให้ยาต้องระวังเรื่องปริมาณ การให้ยาเกินขนาดแทนที่จะเป็นผลดีกับเป็นผลเสียต่อแฮมสเตอร์ก็เป็นได้
     ในช่วงที่แฮมสเตอร์ท้องเสียงดให้ผักและผลไม้สด รวมทั้งอาหารที่มีความชื้นสูง ควรให้อาหารแห้งพวกธัญพืช หญ้าแห้ง และน้ำสะอาดด้วย โดยอาจผสมเกลือแร่
     การที่แฮมสเตอร์ท้องเสียเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น การได้รับผักและผลไม้สดที่มีปริมาณน้ำมากเกินไป หรือได้รับอาหารที่ไม่สะอาด มีเชื้อโรค เชื้อรา หรือกินอาหารที่แปลกๆเข้าไป จึงทำให้แบคทีเรียในกระเพาะอาหารขาดสมดุล ฉะนั้นการให้อาหารแฮมสเตอร์ผู้เลี้ยงก็ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย

โรคหวัด
     โรคหวัดสามารถติดต่อได้ทางลมหายใจ อาหาร และน้ำ ผู้ที่เลี้ยงเมื่อรู้ตัวว่าป่วยเป็นหวัดก็ควรที่จะหลีกเลี้ยงการสัมผัสแฮม สเตอร์ หรือหาผ้ามาปิดปากปิดจมูกเวลาเล่นกับเค้า
     ลักษณะอาการเมื่อแฮมสเตอร์เป็นหวัด ซึม หงอย จมูกเปียก ตาแฉะ กินน้อย ไม่ร่าเริง ในบางตัวอาจมีไข้ตัวร้อน ต้องพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
     อาการหวัดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยสัตวแพทย์จะจ่ายตามอาการเท่านั้น ในกรณีที่อาการไม่หนักมาก เราสามารถรักษาเบื้องต้นได้ ถ้ามีขี้ตาให้หาคอตต้อนบัตจุ่มน้ำสะอาดเช็ดออก โดยเช็ดไปทางเดียวกัน อย่าเช็ดไปเช็ดมา ให้ป้อนอาหารอ่อนๆ เช่นอาหารสำหรับเด็กอ่อน พวกยี่ห้อไฮนซ์ อย่าป้อนซีรีแลคเด็ดขาด เพราะซีรีแลคมีส่วนผสมของนมวัว เวลาที่เค้าป่วยลำไส้จะทำงานหนักเป็นพิเศษ และควรให้อาหารที่มีวิตามินซีสูง แต่อย่าให้ผลไม้มีที่รสเปรี้ยว แนะนำเป็นฝรั่ง แอปเปิ้ล โดยหันเป็นชิ้นเล็กๆให้เค้า และควรใส่ทิชชู่เพิ่มเพื่อให้เขาทำรังนอนได้อุ่นขึ้น แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน ควรนำไปพบแพทย์ทันที และไม่ควรให้ยารักษาด้วยตัวเอง
     วิธีป้องกัน เมื่อร่างกายแข็งแรงก็ย่อยจะไม่เป็นโรคต่างๆได้ง่าย ดังนั้นควรเสริมสร้างสุขภาพให้แฮมสเตอร์แข็งแรงเพื่อป้องกันหวัด ทำได้ง่ายๆโดยให้อาหารที่สดใหม่ และมีคุณค่าทางด้านโภชนาการที่ครบถ้วน น้ำต้องสะอาด โดยอาจผสมวิตามินให้เค้าบ้าง ควรเปลี่ยนน้ำทุกๆ 2-3 วัน แม้น้ำจะไม่สกปรกก็ตาม ล้างภาชนะให้สะอาดทุกครั้ง

โรคแก้มเน่า
     แฮมสเตอร์มีนิสัยชอบตุนอาหารไว้ในแก้มแล้วไม่ยอมกิน แล้วยิ่งอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลมาก อาหารนี้อาจจะละลายในแก้มของแฮมสเตอร์ และเกิดการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียในแก้ม จนอาหารที่อมไว้เน่าเสีย และกระพุ้งแก้มติดเชื้อ ดังนั้นผู้เลี้ยงความหมั่นสังเกตว่า แฮมสเตอร์กินอาหารในแก้มที่ตุนไว้บ้างหรือเปล่า?
     วิธีป้องกัน ให้อาหารในปริมาณที่เค้าพอกิน 1 วัน แฮมสเตอร์แคระอาจให้ประมาณ 1 ช้อนชา ไจแอนท์อาจให้ 1-2 ช้อนชา และถ้าเค้าตุนไว้ในแก้มก็หยุดให้อาหารเขาเพิ่มสัก 1-2 วัน เพื่อบังคับให้เค้าเอาอาหารที่ตุนไว้ในกระพุ้งแก้มออกมากิน ถ้าแก้มเน่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแฮมสเตอร์ได้
     วิธีการสังเกตว่าเป็นโรคแก้มเน่าหรือไม่ ถ้าเค้าตุนจนไม่ยอมเอาออก เราก็ต้องช่วยเค้า โดยการดันเบาๆ เพื่อเปิดทางหลังจากนั้นเค้าจะค่อยๆคายออกมาเอง ถ้าอาหารที่คายออกมามีกลิ่นเหม็นเน่า ให้สงสัยไว้ก่อนว่าแก้มอาจเน่าได้ และให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อรักษา

โรคขนร่วง
     ถ้าหากแฮมสเตอร์ขนร่วง แหว่งหายไป เป็นหย่อมๆ หรือเป็นแถบ หรือทั้งตัว ต้องรีบหาสาเหตุเพื่อแก้ไขและรักษา ซึ่งโดยทั่วไปสาเหตุที่ทำให้แฮมสเตอร์ขนร่วง ได้แก่ การขาดสารอาหาร ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน หรือได้รับอาหารซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน แก้ไขโดยสลับอาหารบ้าง หรือหาอาหารเสริมให้เขา อากาศร้อนก็ทำให้แฮมสเตอร์ขนร่วงได้ ที่อยู่อาศัยสกปรกหมั่นทำความสะอาดกรงอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง คอยดูแลความสะอาด เพราะสิ่งสกปรกมักเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ แพ้วัสดุรองกรง อันนั้นต้องหมั่นสังเกตเพราะแพ้วัสดุรองกรงนั้นมีหลากหลายรูปแบบ และแฮมสเตอร์แก่ แฮมสเตอร์ที่อายุมากก็อาจมีขนร่วงได้

ฝีหนอง
     ถ้าหากแผลของแฮมสเตอร์ไม่ว่าจะโดนอะไรมาก็ตามเกิดอักเสบจนเป็นหนอง หรือเกิดเป็นฝีขึ้นมา ให้ตัดขนปริเวณรอบๆออก ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ แล้วใส่ยาที่มีสรรพคุณฆ่าเชื้อโรค โดยขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์เกี่ยวกับยา แต่ห้ามเจาะหนองเองเด็ดขาด รอให้หนองแห้งไปเองจะเป็นการดีที่สุด

อาการท้องผูก
     มักไม่ค่อยเกิดขึ้นกับแฮมสเตอร์ แต่ถ้าสังเกตว่าแฮมสเตอร์ไม่ค่อยถ่าย หรือถ่ายน้อย และร้องเจ็บปวดเวลาถ่าย แสดงว่าท้องผูก ควรให้น้ำสะอาดและผักผลไม้สด แต่ต้องล้างให้สะอาด และให้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็ช่วยให้เจ้าหนูหายจากอาการท้องผูกได้

โรคความร้อน
     แม้ว่าแฮมสเตอร์จะเป็นสัตว์ทะเลทราย แต่การเปลี่ยนอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมอย่างกระทันหัน หรืออากาศที่ร้อนอบอ้าวมากๆ ย่อมทำให้แฮมสเตอร์ตัวเล็กๆ เกิดอาการช็อคได้ โดยหากแฮมสเตอร์มีเหงื่อออก ตัวเปียกแฉะ นอนนิ่ง หายใจหอบ วิธีแก้ไข คือ เอาผ้าชุบน้ำ(อุณหภูมิปกติ) มาเช็ดตัวให้น้องแฮมสเตอร์ หรือหากระบอกฉีดน้ำ พ่นละอองน้ำให้แฮมสเตอร์ เพื่อลดความร้อน หรือเอาน้ำแข็งห่อผ้าวางไว้ใกล้ๆ และเปิดพัดลมให้แบบส่าย อย่าเปิดแบบจ่อให้ลมโกรกแรง อาการของเขาก็จะดีขึ้น

โรคความเย็น
     โรคนี้ตรงข้ามกับโรคความร้อน และมักไม่เกิดขึ้นในเมืองไทยที่มีอากาศร้อน แต่ก็อาจเกิดขึ้นเล็กๆน้อยๆได้ ลักษณะอาการ ขดตัวนิ่ง ตัวแข็ง หายใจเบา จับดูตัวเย็น ให้เอาผ้าขนหนูแห้งๆห่อไว้เว้นส่วนหัว แล้วเอาไฟกก โดยอาจใช้โคมไฟอ่านหนังสือ แต่ถ้าใช้แบบหลอดไส้จะร้อนดีกว่า มาส่งตัวแฮมสเตอร์ ให้ระยะจากโคมไฟกับแฮมสเตอร์ห่างกันประมาณ 30 ซม. จนแฮมสเตอร์รู้สึกตัว การที่แฮมสเตอร์เกิดโรคความเย็นก็เนื่องจากอุณหภูมิลดต่ำลงมากเกินไป กลไกในตัวของแฮมสเตอร์จะสั่งให้จำศีล เพราะอากาศหนาวคือสัญญาณของฤดูที่อดอยาก


   รับรู้กันถึงโรคต่างๆ และแนวทางป้องกันแก้ไข หากแฮมสเตอร์ของคุณประสบปัญหาเหล่านี้ อย่าเพิ่งตกใจ ตั้งสติและรีบแก้ไขโดยทันที...